โครงการประชาสัมพันธ์
โครงการประชาสัมพันธ์
งบประมาณ
ระยะเวลา
การบูรณาการ
- การสอน –
- การวิจัย –
ผู้รับผิดชอบ/โทรศัพท์ งานบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น 077-355683
โครงการประชาสัมพันธ์
งบประมาณ
ระยะเวลา
การบูรณาการ
ผู้รับผิดชอบ/โทรศัพท์ งานบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น 077-355683
ฝ่ายบริการวิชาการฯ ร่วมกับสำนักวิทยบริการ และคณะครุศาสตร์ ได้เดินทางเข้าพื้นที่เพื่อจัดเตรียมรับเสด็จฯสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ณ โรงเรียนบ้านห้วยเหมือง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ในวโรกาสทรงเสด็จฯตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ในสังกัด กก.ตชด.41 ในวันที่ 22 กันยายน 2560 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีในฐานะหน่วยงานสนองงานโครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบงานห้องสมุดโรงเรียน การสาธิตการสอน และการจัดการเรียนการสอนระดับปฐมวัย ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานียืนหยัดสนองงานโครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษาโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพฯ เราก้าวเดินอย่างมุ่งมั่นร่วมกับโรงเรียนและเหล่าครู ตชด. เราพร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อพี่น้องประชาชนทุกรูปแบบตามที่ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า เราคือมหาวิทยาลัยพลังแผ่นดิน ผู้สร้างแผ่นดินให้มีพลัง###SRUมหาวิทยาลัยพลังแผ่นดิน สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ รายงานฝ่ายบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดย ผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน ว่าที่อธิการบดี และดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการฯ ได้เข้าพบรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางมหาวิทยาลัยราชภัฏบนฐานไทยแลนด์ 4.0 ณ ห้องพักรัฐมนตรี อาคารศูนย์บัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร ตลอดระยะเวลาร่วมชั่วโมงของการพูดคุย ท่านรัฐมนตรีให้เกียรติพวกเราอย่างสูง โดยเชื่อมั่นว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีจะเป็นฐานสำคัญในการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้งประเทศเพื่อสร้างพลังให้กับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น ในฐานะ”มหาวิทยาลัยพลังแผ่นดิน” และข่าวดีคือในอีกไม่นานจะมีการประชุม ค.ร.ม.สัญจรที่สุราษฎร์ธานี และเราจะมีโอกาสได้นำเสนอแนวทางในการสร้างศักยภาพให้กับท้องถิ่นเพื่อให้ผู้กำหนดนโยบายได้ใช้ประกอบการพิจารณา จากนั้นผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน ว่าที่อธิการบดี ผศ.ดร.มาริสา อินทรวงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายแผนฯ และดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการฯ ได้เข้าร่วมในการประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏทั้งประเทศ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม โดยผศ.ดร.ณรงค์ พุทธิชีวิน ได้นำเสนอแนวทางตามที่ได้หารือร่วมกับท่านรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ โดยที่ประชุมมีมติให้ทุกราชภัฏดำเนินการทำยุทธศาสตร์ของแต่ละแห่ง แห่งละ 3 ประเด็น โดยจะนำเสนอกันในการประชุมอธิการบดีฯคราวหน้า วันนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะขับเคลื่อนเพื่อยกระดับคุณภาพท้องถิ่นอย่างมีส่วนร่วม และเมื่อใดก็ตามที่ราชภัฏทั้งประเทศรวมเป็นหนึ่ง เราจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยพลังของแผ่นดิน ผู้สร้างแผ่นดินให้มีพลังได้อย่างแท้จริง “SRUมหาวิทยาลัยพลังแผ่นดิน” อาซีด ทิ้งปากถ้ำ รายงานฝ่ายบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
…..ฝ่ายบริการวิชาการฯ โดยดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดี ร่วมกับสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยอาจารย์อนุรักษ์ แพนสกุล ผู้อำนวยการสำนัก พร้อมด้วย ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พราหมณพันธุ์ ประธานเครือข่ายบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ในภารกิจที่จะเดินทางมาเป็นประธานการประชุมเครือข่ายบริการวิชาการของมหาวิทยาลัยเขตภาคใต้ ได้หารือร่วมกับนายกเทศมนตรี เทศบาลตำบลพุมเรียง เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่แหลมโพธิ์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ที่มีการจัดการอย่างเหมาะสมและยั่งยืน …..ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการฯ เผยถึงผลสรุปของการหารือว่า แหลมโพธิ์เป็นพื้นที่ที่ประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวเชิง โบราณคดี และศิลปวัฒนธรรมประกอบกัน แต่ยังขาดแผนในการบริหารจัดการเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสม ทั้งนี้มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี จะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยงในการช่วยเหลือจัดทำแผนปฏิบัติการจากการระดมความคิดเห็นในวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2560 เพื่อจะได้นำเสนอต่อภาคส่วนอื่นๆในการสร้างความยั่งยืนต่อไป …..ต่อข้อซักถามถึงแนวทางการมีส่วนร่วมกับท้องถิ่นนั้น ผู้ช่วยอธิการบดีให้ข้อมูลว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมีความพยายามอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์แนวทางเพื่อพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้อง เราพร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปด้วยกันกับท้องถิ่นตามที่ได้ให้ปณิธานไว้ว่า เราจะเป็นมหาวิทยาลัยพลังแผ่นดิน ผู้สร้างแผ่นดินให้เป็นพลัง อาซีด ทิ้งปากถ้ำ ภาพเยาวลักษณ์ กากแก้ว รายงานฝ่ายบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี
ผช.ฝ่ายบริการวิชาการ เผยแม่งานพยาบาลไฟแรง เร่งจัดการเรียนการสอนจัดเต็มองค์ความรู้ สู่ชุมชนท้องถิ่น หวังยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิต ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อาชีพสร้างงาน สร้างรายได้ ช่วยเหลือตนเองต่อไป …..เมื่อ 09.00 น. (26 ธันวาคม 2560) ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ พร้อมด้วยผู้ช่วยคณบดีศูนย์สร้างเสริมสุขภาพผู้สูงอายุและคณะ จากคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปยังศาลาประชาคม หมู่ที่ 10 ตำบลขุนทะเล อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อร่วมหารือกับแกนนำและผู้ประสานงานในหมู่บ้านดังกล่าว เรื่องการแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนผู้สูงอายุที่มหาวิทยาลัยจะมาดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วน …..เนื่องจากการประชุมเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 มีมติให้มีการสังเคราะห์หลักสูตร โดยคณะพยาบาลศาสตร์ งานบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ร่วมกับชุมชนและหน่วยงานในเขตพื้นที่ขุนทะเล อันได้แก่ เทศบาล,กศน.พระภิกษุ,อาจารย์ผู้เกษียณอายุราชการ,ปราชญ์ชาวบ้าน …..ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ เปิดเผยถึงการดำเนินงานว่ามหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยฝ่ายบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น ร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ ได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมหารือกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และแกนนำชุมชนหมู่ที่ 10 เพื่อหาแนวทางในการบริหารจัดการโรงเรียนผู้สูงอายุที่มหาวิทยาลัยจะมาดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วน ผลการหารือได้ข้อสรุปว่า มหาวิทยาลัยจะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งประชาชนในพื้นที่จัดตั้งโรงเรียนผู้สูงอายุ ม.10 และพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเริ่มดำเนินการเปิดการเรียนการสอนในเดือนมกราคม…
ทีมงานบริการวิชาการฯ ปลื้ม “เทิร์นโปร” สู่แท่นอันดับ 1 โครงการขับเคลื่อนอันดับเว็บไซต์ มรส. พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยสนับสนุนงานบริการวิชาการฯ เชื่อมั่นอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยฯ อยู่ไม่ไกล เร่งพัฒนาระบบพร้อมอัฟเดดข่าวสารต่อเนื่อง …..ตามที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีมีนโยบายขับเคลื่อนอันดับมหาวิทยาลัย ด้วยการจัดอันดับมหาวิทยาลัยทั่วโลกและเผยแพร่การจัดอันดับผ่านทางเว็บไซต์ http://www.webometrics.info โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดอับดับเว็บที่มีการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการอิเล็กทรอนิกส์และกิจกรรมผ่านทางอินเทอร์เน็ต ตลอดจนสนับสนุนการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง ทั้งนี้ จากการรายงานผลการดำเนินงาน การจัดการเว็บไซต์ระดับหน่วยงาน โครงการขับเคลื่อนอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ประจำปีงบประมาณ 2561 ผลปรากฏว่าหน่วยงานที่ได้อับดับหนึ่งในโครงการดังกล่าวได้แก่งานบริการวิชาการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งได้คะแนนรวม 76.6 % จาก 100 % เต็ม …..ด้าน ดร.สมปราชญ์ วุฒิจันทร์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการ เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า “นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่งานบริการวิชาการฯได้รับรางวัลอันดับ 1 ของการจัดอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ระดับหน่วยงาน ซึ่งรางวัลดังกล่าวจะสร้างขวัญและกำลังใจต่อทีมงานบริการฯ โดยส่วนตัวยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าตามพันธกิจของหน่วยงานและมหาวิทยายลัยอย่างเต็มพละกำลัง ซึ่งกิจกรรมการลงพื้นที่ตามหมู่บ้านต่างๆของตำบลขุนทะเล และการดำเนินโครงการที่ระบุไว้ในแผน หรือโครงการที่ชุมชนขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทุกงานที่กล่าวมาทางทีมงานได้เผยแพร่ข้อมูลข้อเท็จจริงเพื่อให้ผู้รับบริการด้านข้อมูลข่าวสาวสามารถรับรู้ได้ทันที เพราะเป็นนโยบายที่ดำเนินการวันต่อวัน คือการทำกิจกรรมอันใดก็แล้วแต่จะต้องอัฟเดตข้อมูลภายในวันนั้น สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณมหาวิทยาลัยที่จัดทำโครงการดีๆให้กับหน่วยงานเพื่อส่งเสริมการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณทีมงานบริการวิชาการฯทุกท่านที่ใช้สรรพกำลังทั้งหมดปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดกำลังและสุดความสามารถ” …..ขณะที่ นายอาซีด ทิ้งปากถ้ำ…
…..ว่าที่บัณฑิตรัฐประศาสนศาสตร์สุดประทับใจทำโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง เผย เห็นรอยยิ้มเยาวชนของชาติดีใจที่มีสื่อการเรียนการสอนเสริมสร้างสติปัญญา ด้าน ดร.พลกฤต ตอกย้ำคุณค่าของบัณฑิต รปศ.ต้องเป็น “ผงธุลีที่มีค่าต่อแผ่นดิน” …..เมื่อเวลา 09.00 น. (30 มีนาคม 2561) สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ดำเนินการจัดประชุมสัมมนาภายใต้ชื่อ 24 โครงการเพื่อแผ่นดินซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการประเมินโครงการของนักศึกษา ณ ห้อง GA101 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี โดยมีพลตรีไพโรจน์ มณีอ่อน สมาชิกสภาปฏิรูป สนช และ ดร.ชุมพล แก้วสม ประจำหลักสูตรรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – ชุมพร เป็นวิทยากร …..ทั้งนี้ ดร.พลกฤต แสงอาวุธ ประธานสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยและอาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาและผู้ควบคุมดูแลโครงการดังกล่าวได้เปิดเผยถึงหลักการและวัตถุประสงค์ของโครงการว่า ได้ร่วมพูดคุยกับนักศึกษาในเรื่องของการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องและตอบโจทย์กับรายวิชาและมีคุณค่าต่อแผ่นดิน ซึ่งได้ข้อสรุปว่านักศึกษาต้องการดำเนินโครงการภายใต้แนวคิด 24 โครงการเพื่อแผ่นดินตามแนวพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 และในหลวงรัชการที่ 10 หลังจากนั้นจึงร่วมกันตั้งโจทย์ว่านักศึกษาจะได้อะไร ซึ่งได้ตกผลึกทางความคิดว่านักศึกษาต้องเป็น“ผงธุลีที่มีค่าต่อแผ่นดิน” ดังนั้นจึงร่วมกันหาพื้นที่เป้าหมายซึ่งได้กำหนดไว้ 3 ประเด็นคือ 1….